ด้วย สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ปปส.กทม.)
มีความประสงค์จะขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ไม่เหมาะสมจะเก็บรักษาไว้ ประเภทรถยนต์และยานพาหนะ ตามคำสั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ 3987/2566 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2566 จำนวน 26 รายการ คำสั่งเลขาธิการ ป.ป.ส. ที่ 4268/2566 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2566 จำนวน 17 รายการ คำสั่งเลขธิการ ป.ป.ส. ที่ 4269/2566 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2566 จำนวน 15 รายการ คำสั่งที่ 7475/2566 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2566 จำนวน 2 รายการ รวมจำนวน 60 รายการ และสำนักงาน ป.ป.ส. ได้มอบหมายให้ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด เป็นผู้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินประเภทรถยนต์และยานพาหนะ รวมจำนวน 4 นัด ดังนี้
นัดที่ 1 ในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2567
นัดที่ 2 ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567
นัดที่ 3 ในวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567
นัดที่ 4 ในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567
ณ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด เลขที่ 180 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป รายละเอียดปรากฏตามบัญชีแนบท้ายประกาศ และมีเงื่อนไขในการขายทอดตลาด ดังนี้
๑. ผู้ที่ประสงค์เข้าสู้ราคาสามารถติดต่อขอดูทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดได้ ณ สถานที่เก็บรักษาบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด และสาขาของบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ดังนี้
- ทรัพย์สินรายการ ที่ 1 – 18 และ 20 – 23 ขอดูทรัพย์สินได้ที่ บริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด สาขาสรงประภา ดอนเมือง (ตลาดโอโซน) เลขที่ 1 ซอยสรงประภา 11 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
- ทรัพย์สินรายการที่ 24 ขอดูทรัพย์สินได้ที่ บริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด สาขาเชียงใหม่ ซอย 4 ตำบลไชยสถาน อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
- ทรัพย์สินรายการที่ 25 - 26 , 28 – 37 , 39 – 47 และ 51 – 58 ขอดูทรัพย์สินได้ที่ บริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด สาขาร่มเกล้า ถ.เคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ได้ล่วงหน้าก่อนวันประมูล 1 วัน
- ทรัพย์สินที่ประกาศขายทอดตลาดทุกรายการทั้งหมดเป็นการประมูลขายตามสภาพ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในข้อผิดพลาดของรายละเอียดทรัพย์สิน รวมถึงไม่มีการรับประกันสภาพทรัพย์สิน เช่น เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบไฟฟ้า ระบบไฮบริค ระบบเชื้อเพลิง อุปกรณ์ส่วนควบ อุปกรณ์ตกแต่ง โครงสร้าง ฯลฯ และสำนักงาน ป.ป.ส. ถือว่าผู้เข้าสู้ราคาได้ตรวจสอบสภาพทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดจนเป็นที่พอใจแล้ว และจะไม่รับผิดชอบในความชำรุดบกพร่องของทรัพย์สินไม่ว่ากรณีใดๆ
2. กำหนดการลงทะเบียนประมูลสู้ราคา
นัดที่ 1 วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม 2567 ณ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด
เลขที่ 180 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 8.30 น.
และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.10 น. เป็นต้นไป
นัดที่ 2 ในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2567 ณ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด
เลขที่ 180 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 8.30 น.
และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.10 น. เป็นต้นไป
นัดที่ 3 ในวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 ณ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด
เลขที่ 180 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา ตั้งแต่เวลา 8.30 น. และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.10 น. เป็นต้นไป
นัดที่ 4 ในวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 ณ บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด เลขที่ 180 ถนนรามคำแหง แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 8.30 น.
และจะดำเนินการขายทอดตลาด ตั้งแต่เวลา 10.10 น. เป็นต้นไป
พร้อมวางเงินประกันค่าป้ายประมูลตามเงื่อนไขของบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ที่กำหนดไว้
โดยสามารถลงทะเบียนและเข้าร่วมประมูลออนไลน์ (E-AUCTION) ผ่านทางเว็ปไซต์ www.sia.co.th ได้
3. การขายทอดตลาดทรัพย์สินให้เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีของบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ที่กำหนดไว้ โดยย่อมมีผลสมบูรณ์เมื่อผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงสุดคือผู้มีสิทธิ์ในการประมูลซื้อได้ ทั้งนี้ หากการต่อสู้ราคาใดไม่เป็นไปโดยสุจริต คณะกรรมการขายทอดตลาดมีอำนาจถอนรายการที่ไม่สมควรขายนั้นๆ ออกจากขายทอดตลาดได้ และสำนักงาน ป.ป.ส. ทรงไว้ ซึ่งสิทธิที่จะยกเลิกการขายในรายการที่ไม่เห็นสมควรนั้นๆ ซึ่งในกรณีเช่นนี้
ผู้สู้ราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
4. หากตกลงขายทรัพย์สินรายการใดรายการหนึ่งให้กับผู้สู้ราคาสูงสุดรายการใดแล้ว ผู้นั้นจะต้องชำระเงินในรายการนั้นทันที กรณีราคาจบประมูลของทรัพย์สินมีราคาต่ำกว่า 100,000 บาท ชำระเต็มจำนวนของราคาจบประมูล และในกรณีที่ราคาจบประมูลทรัพย์สินมีราคา ตั้งแต่ 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) ขึ้นไป ต้องชำระเงินมัดจำ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของราคาจบประมูล โดยมีเงื่อนไขในการชำระราคาส่วนที่เหลือ
ให้เสร็จสิ้น ภายใน 3 วัน นับจากวันประมูล (ตามเงื่อนไขการชำระบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด)
ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะออกใบเสร็จรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐาน
และทำสัญญาหากไม่ชำระให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด สำนักงาน ป.ป.ส. จะริบเงินมัดจำนั้นเสีย
และหากการขายครั้งใหม่ได้เงินเป็นจำนวนสุทธิไม่คุ้มกับการขายทอดตลาดครั้งก่อน ผู้ชนะการประมูลเดิมจะต้องรับผิดชดใช้ราคาในส่วนที่ขาดอยู่นั้น
5. ค่าดำเนินการ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวงอันเกิดจากการดำเนินการของบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ผู้ชนะการประมูลจะต้องเป็นผู้ชำระให้กับบริษัทโดยชำระเป็นเงินสด แคชเชียร์เช็ค หรือจ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
6. กรณีทรัพย์สินรายการใดที่มีราคาเกินกว่า 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) ขึ้นไป คณะกรรมการขายทอดตลาดกำหนดให้มีการวางหลักประกัน ผู้เข้าสู้ราคาจะต้องวางหลักประกันเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คของธนาคาร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของราคาเปิดขายทอดตลาด วงเงินตามบัญชีแนบท้ายประกาศจึงจะมีสิทธิเข้าสู้ราคา และจะคืนหลักประกันให้ผู้เข้าสู้ราคาต่อเมื่อการขายทอดตลาดรายการนั้นเสร็จสิ้นแล้ว และกรณีที่ผู้เข้าสู้ราคาผู้ใดเป็นผู้ประมูลซื้อได้ให้ถือว่าหลักประกันของผู้เข้าสู้ราคานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการชำระราคา
7. สำนักงาน ป.ป.ส. ขอสงวนสิทธิ์ในการถอนทรัพย์สินรายการใดๆ ตามประกาศออกจากการขาย ก่อนการขายทอดตลาดตามความเหมาะสม เพื่อให้การขายเป็นไปโดยเรียบร้อย โดยผู้เข้าร่วมประมูลสู้ราคา
จะเรียกร้องค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ได้ทั้งสิ้น
8. ค่าใช้จ่ายในการโอน และส่งมอบทรัพย์สิน เช่น ค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าขนย้าย หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นภาระของผู้ประมูลได้ และผู้ประมูลได้ต้องติดต่อขอรับทรัพย์สินได้และขนย้ายทรัพย์สินออกจากบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ภายในเวลา 3 วัน นับจากวันชำระเงินเสร็จสิ้น เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวหากผู้ประมูลได้ยังไม่ได้ขนย้ายไป ผู้ประมูลได้จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเสื่อมสภาพของตัวทรัพย์สินและค่าใช้จ่ายที่มีขึ้น กำหนดตามเงื่อนไขของทางบริษัท โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จะไม่รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใดๆ
9. หลักฐานการโอน สำนักงาน ป.ป.ส. จะออกหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์ ภายในระยะเวลา
ไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่ผู้ประมูลได้ชำระเงินครบถ้วน โดยให้ผู้ประมูลได้มารับเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์จาก บริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด (สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นผู้ประสานกับบริษัทสยามอินเตอร์การประมูล จำกัด ในการจัดส่งเอกสาร)
10. ผู้ประมูลได้ต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ชำระเงินครบถ้วน และการลงทะเบียนประมูล วิธีการขายทอดตลาด ตลอดจนการชำระเงินให้เป็นไปตามเงื่อนไขของทางบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด (รายละเอียดปรากฏตามแบบฟอร์มของการลงทะเบียนของบริษัท)
11. กรณีทรัพย์สินที่คณะกรรมการขายทอดตลาดให้ดำเนินการขายยานพาหนะแบบซากรถ หรือรถที่มีสภาพเสียหาย โดยไม่ออกเอกสารชุดโอนกรรมสิทธิ์ให้ (เนื่องจากเป็นรถที่ประกอบจากชิ้นส่วนเก่าใช้แล้วนำเข้าจากต่างประเทศ ตามกฎกระทรวงงดรับจดทะเบียนรถ รถที่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาของรถได้)
ผู้ประมูลได้ไม่มีสิทธิ์ดำเนินการถอนอายัดจากขนส่งโดยไม่มีหนังสือขอถอนอายัดทางทะเบียน ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย
12. การส่งมอบทรัพย์สินประเภทยานพาหนะในกรณีที่ขายไม่ได้คืนให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ สำนักงาน ป.ป.ส. จะแจ้งเป็นหนังสือไปยังบริษัท สยามอินเตอร์การประมูล จำกัด พร้อมคำสั่งและแจ้งให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ไปรับคืนจากบริษัท โดยดำเนินการตามระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อนึ่ง การเข้าสู้ราคาในครั้งนี้ ผู้สู้ราคาทุกคนจะต้องนำบัตรประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือบัตรแสดงตนที่ทางราชการออกให้อย่างใดอย่างหนึ่งมาแสดงในวันขายทอดตลาดด้วย กรณีเป็นนิติบุคคล จะต้องนำหนังสือรับรองบริษัทหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดงในวันขายทอดตลาด
และในกรณีที่ผู้สู้ราคาประสงค์จะเข้าสู้ราคาในนามบุคคลอื่น ให้แสดงใบมอบอำนาจก่อนเข้าสู้ราคา ถ้าไม่แสดงให้ถือว่าเข้าสู้ราคาในนามตนเอง ในกรณีเช่นนี้ ถ้าทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดนั้นเป็นทรัพย์สินที่ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ผู้สู้ราคานั้นจะขอให้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้ซื้อโดยอ้างว่าเป็นเพียงตัวแทนมิได้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.oncb.go.th/ข่าวขายทอดตลาดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2588 5037-9 ต่อ 24007, 13008