วันพุธที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๓๐ น. นายทัศน์พงษ์ วัฒนายากร ผอ.ปปส.ภ.๗ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้ยาเสพติดแก่ครูฝึกทหารกองประจำการพื้นที่ภาคกลาง รุ่นที่ ๕ (พื้นที่จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์) ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันพุธที่ ๒๓ - วันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ ณ ห้องประชุม Riverton Convention Hall โรงแรมริเวอร์ตัน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม พร้อมด้วย
พันเอก ประกาศ จันจะนะ ตำแหน่ง ผู้บังคับกองพันมณฑลทหารบกที่ ๑๕ และพันเอก กุญช์ภัสร์ หาญสมบูรณ์ ตำแหน่ง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ ๑๖ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดฯ ในครั้งนี้
โดยมี กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูฝึกทหารกองประจำการ สังกัดกองทัพบก ในพื้นที่ ปปส.ภ. ๗ จำนวน ๕๐ นาย จาก มณฑลทหารบกที่ ๑๕ /มณฑลทหารบกที่ ๑๖ /กรมการทหารช่าง /กองพลทหารช่าง /กองร้อยฝึกรบพิเศษที่ ๑ /ศูนย์การทหารราบ และ โรงเรียนนายสิบทหารบก โดยโครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและความรู้ในการพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อการป้องกันยาเสพติดแก่ครูฝึกทหารกองประจำการในการนำไปประยุกต์ใช้ฝึกอบรมทหารกองประจำการในสังกัด และ (๒) พัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนรู้ยาเสพติดที่หลากหลายบริบทแก่ครูฝึกทหารกองประจำการในการนำไปประยุกต์ใช้ฝึกอบรมทหารกองประจำการในสังกัด 
ซึ่งมีกรอบเนื้อหาหลักสูตรในการฝึกอบรมที่สำคัญ ประกอบด้วย
๑) การเสริมสร้างทัศนะคติที่ดีต่อการดำเนินงานยาเสพติด 
๒) ความรู้ยาเสพติดและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 
๓) ความมั่นคงและจิตวิทยาทางทหาร 
๔) การพัฒนาทักษะชีวิตเพื่อการป้องกันยาเสพติด
๕) การจัดการเรียนรู้ยาเสพติด 
ทั้งนี้การฝึกรอบรมดังกล่าวได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภาครัฐ  (มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง/กองพลทหารราบราบที่ ๙ /โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า สำนักงาน ป.ป.ส.) และหน่วยงานภาคเอกชน ผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินงานครูฝึกทหารกองประจำการ ได้รับความรู้และสามารถนำไปปรับใช้กับการฝึกทหารกองประจำการในสังกัด และนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไป ทั้งนี้ โดยตลอดระยะเวลาในการจัดโครงการฯ ปปส.ภ.๗ ใช้มาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมถึงการดำเนินการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด