วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30 น. นายสำรวย วรเตชะคงคา ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค ๗ และคณะ ร่วมประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสุพรรณบุรี (ศอ.ปส.จ.สพ.) ครั้งที่ 5/2564 ณ ห้องประชุมอาชาสีหมอก ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี โดยมีนายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย ผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมจำนวน 6๐ คน โดย ผชช.ปปส.ภ.๗ ได้นำเสนอในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1 .ผู้แทน ปปส.ภ.๗ ชี้แจงแนวนโยบายการขับเคลื่อนงานฯ ดังนี้
1.1 สรุปสถานการณ์และแนวโน้มปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่ภาค 7 และจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเน้นให้เฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าจากพื้นที่ชายแดนภาคตะวันตก การลำเลียงลงสู่ภาคใต้ ผ่านเส้นทางหลักและรอง ถนนเพชรเกษม ทางรถไฟ และเน้นย้ำเฝ้าระวังการแพร่ระบาดเฮโรอีนในพื้นที่ การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้สารเสพติด
1.2 ยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
1.3 ประมวลกฎหมายยาเสพติด ปี 2564
1.4 ชี้แจง และติดตามผลการดำเนินงานในมาตรการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายและตัวชี้วัดของจังหวัดสุพรรณบุรีในแต่ละมาตรการ
1.5 ขอความร่วมมือการดำเนินการต่อเรื่องร้องเรียนในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งนี้ ปปส.ภ.7 ได้มอบรายชื่อผู้ถูกร้องเรียนฯ พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี( ต.ค. 64 – ปัจจุบัน ) แก่ประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณาเร่งรัดการดำเนินงานต่อเรื่องร้องเรียนในพื้นที่ต่อไป
1.5 การจัดสรรงบประมาณการดำเนินงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2565 และเป้าหมายการดำเนินการต่อผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติด พื้นที่แพร่ระบาดหมู่บ้าน/ชุมชน การยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด ปี 2565 การส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยการพัฒนาและยกระดับกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดยเฉพาะกองทุนแม่ฯ ระดับ C
2. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบในห้วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2564
ทั้งนี้ประธานได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยในพื้นที่ให้ความสำคัญในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและดำเนินงานตามกรอบแผนงานในปีงบประมาณ 2565 งานด้านการปราบปรามเน้นการดำเนินการเพื่อการขยายผลเครือข่ายนักค้ารายสำคัญ จนสามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินได้ อีกทั้งให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาประมวลกฎหมายยาเสพติด ปี 2564 เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป