วันพุธที่ 15 ตุลาคม 2568 สำนักงาน ปปส.ภ.7 ได้มอบหมายให้ นางสาวเสาวลักษณ์ กิตติธนานุรักษ์ ผอ.วฝ และเจ้าหน้าที่ ส่วน วฝ. และส่วน ปพ. ร่วมกับศอ.ปส.จ.สมุทรสงคราม ,พมจ.สมุทรสงคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีข้อหารือของ สส.สมุทรสงคราม ที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนพบผู้ป่วยจิตเวชไร้บ้าน หรือมีบ้านแต่ครอบครัว ไม่สามารถจัดการได้ออกมาเร่ร่อนตามท้องถนน ในตลาดหรือ แหล่งชุมชน ในวัด ป้ายรถเมล์ หน้าร้านสะดวกซื้อ และสถานที่ สาธารณะต่างๆ เช่น บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใกล้ท่ารถสาธารณะติดกับตลาดร่มหุบ ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่สร้าง ภาพลักษณ์ที่ไม่ดี รวมถึงสุขอนามัยที่ไม่ดีเท่านั้น บ่อยครั้งที่ คนเร่ร่อนจิตเวชจะตะโกนโวยวาย พูดจาข่มขู่หรือบางครั้ง ถึงขั้นถืออาวุธเข้ามาทำร้ายร่างกาย ทำให้ประชาชนหวาดกลัว และไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะเด็ก สตรี คนชราที่ต้องเดินผ่านจุดนี้ เป็นปัญหาซ้ำซากเพราะเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก็จะจัดการ ก็จะหายไปแต่ก็วนเวียนกลับมาจุดเดิมอีก จึงขอให้หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาโดยบูรณาการร่วมกันจัดการปัญหายาเสพติด ปัญหาคนเร่ร่อน ผู้ป่วยจิตเวชที่สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศอย่างยั่งยืน ปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้

1. ได้สอบถามประชาชน ณ บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาตใกล้ท่ารถสาธารณะติดกับตลาดร่มหุบ พบว่ามีคนเร่รอนและจิตเวชจริง จำนวน 4 คน เป็นเพศชาย 3 คน และเพศหญิง 1 คน มีพฤติกรรมเดินเร่รอน ขอเงิน ติดสุรา (เหล้าขาว) โวยวายบ้างแต่ไม่ก่อความวุ่นวายแต่อย่างใด และอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะ โดยเฉพาะหน้าอาคารธนาคารธนชาต (เก่า) ที่ปิดกิจการไปแล้ว เมื่อไปที่บริเวณดังกล่าว ไม่พบบุคคลเร่ร่อนหรือจิตเวชดังกล่าว หลังจากนั้นได้ตรวจสอบที่บริเวณป้อมตำรวจ ก็ไม่พบบุคคลเร่ร่อนหรือจิตเวชแต่อย่างใด
2. จากกรณีดังกล่าวข้างต้นเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทาง พมจ.สมุทรสงครามพบว่า ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อนหรือจิตเวช ตามพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 จำนวน 5 ราย เป็นเพศชาย จำนวน 3 ราย และเพศหญิง จำนวน 2 ราย (เสียชีวิตแล้ว 1 ราย) อยู่ในช่วงอายุ 41-62 ปี เป็นบุคคลที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่สมุทรสงคราม กาญจนบุรี และนครสวรรค์ ที่มีพฤติกรรมติดสุราและเสพสารเสพติด โดยนำส่งคืนสู่ครอบครัว จำนวน 1 ราย แต่หากไม่ประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ ทางพมจ.ก็ไม่สามารถจะผลักดันออกจากพื้นที่ได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดเพื่อควบคุมดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในที่สาธารณะต่อไป (รายละเอียดตามเอกสารรายงานการช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชและบุคคลเร่ร่อน)
3. ทั้งนี้หากพบหรือมีผู้ป่วยจิตเวชและบุคคลเร่ร่อนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ปกครอง ,เจ้าหน้าที่ พมจ. ,เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ดำเนินการบูรณาการให้การช่วยเหลือและรักษาตามระบบต่อไป