วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ปปส.ภ.7 เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561 ณ ห้องประชุม Management Cockpit (MC) ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการ โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
1. ผู้แทน ศอ.ปส.จ.สุพรรณบุรี ในฐานะฝ่ายเลขาฯ แจ้ง
1.1 คำสั่ง ศอ.ปส.จ.สุพรรณบุรี ที่ 12/2562 ลว. 4 ธันวาคม 2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบ กรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561
1.2 บัญชีการจัดสรรโควตาการพิจารณาบำเหน็จความชอบ กรณีพิเศษฯ ที่จังหวัดสุพรรณบุรีได้รับ รวม 64 อัตรา โดยจัดสรรให้บุคากรในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 อัตรา กระทรวงศึกษาธิการ 17 อัตรา กระทรวงมหาดไทย 10 อัตรา กระทรวงยุติธรรม 2 อัตรา กระทรวงสาธารณสุข 13 อัตรา กระทรวงแรงงาน 1 อัตรา และหน่วยงานอื่น ๆ 4 อัตรา
1.3 หลักเกณฑ์การพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561 โดยเน้นย้ำว่าผู้ที่ได้รับเสนอชื่อต้องมีรายชื่อในระบบทะเบียนกำลังพล
2. ผู้แทน ปปส.ภ.7 ชี้แจงวิธีการปฏิบัติ และแนวทางการพิจารณาจัดสรรบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561 ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562 ซึ่งใช้เกณฑ์สัดส่วนอัตรากำลังพลผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ประจำปี 2561 ของแต่ละสังกัดที่บันทึกรายชื่อในระบบทะเบียนกำลังพลเป็นสำคัญ
3. ที่ประชุมร่วมกันพิจารณารายชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ปี 2561 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตามที่แต่ละสังกัดเสนอ จำนวน 64 ราย โดยพิจารณาแล้วมีผู้ที่สมควรได้รับบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษ รวมจำนวน 64 ราย ซึ่งเกินโควตาจำนวน 2 ราย ที่ประชุมจึงมีมติให้เสนอเป็นรายชื่อสำรอง
4. ที่ประชุมขอให้สำนักงาน ป.ป.ส. ปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติและแนวทางการพิจารณาจัดสรรบำเหน็จความชอบกรณีพิเศษในปีต่อ ๆ ไป โดยขอให้มีเงื่อนไขอื่น ๆ นอกเหนือจากจำนวนรายชื่อในระบบทะเบียนกำลังพล ทั้งนี้ ควรพิจารณาจากบทบาท ภารกิจ และผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ และขอให้ผู้รับผิดชอบลงรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับยาเสพติดให้ครบถ้วนในระบบกำลังพล มิฉะนั้นจะกลายเป็นตัดสิทธิ์ไม่ให้ได้รับการพิจารณาไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก